วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Jurassic World สวนสัตว์เปิดหลังจาก 22 ปีผ่านไป


*บทความมีสปอยล์ครับ -- หากไม่อยากรู้รายละเอียดภาพยนตร์ กรุณาอย่าเพิ่งอ่าน

หนึ่งในภาพยนตร์ที่นำกลับมาสร้างใหม่ Jurassic World ที่ผู้กำกับ โคลิน เทรเวอร์โรว์ เคยบอกไว้ว่าจะตรงไปตรงมากับต้นฉบับ ซึ่งหลังจากได้ดูแล้วเขาก็ทำแบบนั้นจริงๆ

จากบทประพันธ์ต้นฉบับ Jurassic Park ของ ไมเคิล ไครช์ตัน ผู้ล่วงลับ แกนหลักยังไม่เปลี่ยนคือ มนุษย์คิดว่าตนเองสามารถควบคุมทุกอย่างได้ แต่เอาเข้าจริงก็กลายเป็นหายนะเช่นเดิม ผมยังคิดไม่ออกว่า นอกจากการให้ไดโนเสาร์ออกมาไล่ล่าคนแล้ว ภาพยนตร์จะสามารถเสนอมุมมองไหนได้อีก ใน Jurassic World มีการพยายามนำไดโนเสาร์ไปใช้งานการสงคราม

หลายอย่างทำให้นึกถึงภาคแรก ยิ่งคนที่เคยชมภาคแรกในโรงภาพยนตร์เมื่อ 22 ปีก่อนคงรู้สึกได้ ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของพี่น้อง ธีมเพลงของ จอห์น วิลเลี่ยม ตัวละครเอกที่แม้จะเชี่ยวชาญมากแค่ก็ยังรับมือเจ้าไดโนเสาร์ไม่ได้ มหาเศรษฐีที่ต้องการทำฝันให้เป็นจริง หรือตัวร้ายที่ไม่รอดจากน้ำมือของสิ่งที่เขาต้องการควบคุม

ความยาวของภาพยนตร์ 2 ชั่วโมงนิดหน่อย แต่ด้วยเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม ไม่ต้องเสียเวลาพูดกันให้ยืดยาวและมากมาย ทุกคนได้ตื่นตาตื่นใจกับเหล่าบรรดาไดโนเสาร์ในรูปแบบต่างๆ แถมด้วยสายพันธุ์ลูกผสมที่มนุษย์อยากควบคุมจนต้องอัญเชิญสายพันธุ์ดั้งเดิมมาช่วยเหลือ ทิ้งท้ายด้วยคำถามที่ว่าใครจะมารับช่วงต่อของกิจการที่มีการบาดเจ็บล้มตายกันมากมายขนาดนี้ และ ไข่ตัวอ่อนและผลงานทั้งหมดของศูนย์วิจัยจะถูกนำไปที่ใด? หรือใช้ประโยชน์แบบไหนต่อไป?  ในหนังบอกว่า “มาซรานี” ของนักแสดง เออร์ฟาน ข่าน คือมหาเศรษฐีอันดับที่ 8 ของโลก แสดงว่ายังมีอีก 7 รายที่รวยกว่าสามารถเทคโอเวอร์กิจการได้ งั้นก็สร้างต่อไปอีก 7 ภาคแล้วกัน ให้เท่ากับแฮร์รี่ พอตเตอร์ เลย (อันนี้คิดเล่นๆ)
ถึงตอนนี้ภาพยนตร์ Jurassic World กลายเป็นภาพยนตร์เปิดตัวทำเงินมากที่สุดไปแล้ว  หลายคนคงเห็น “โอเว่น เกรดี้” ขี่ไดโนเสาร์ถือค้อน “โยเนียร์” และ คริส แพรทท์ เซ็นต์สัญญาในภาคต่อไปเรียบร้อย ถ้าไม่ดังมากไปกว่านี้คงได้เห็นเขากลับมาในปี 2018 -2019 และเป็นไปได้ที่เขาจะปรากฎตัวใน Avengers: Infinity War – Part I – II ในฐานะ “สตาร์-ลอร์ด”

สำหรับนางเอก “แคลร์” ของ ไบรซ์ ดัลลัส โฮเวิร์ด ก็ออกมาสวยดีแต่คิดว่าจะมีมาดมากกว่านี้ ส่วนตัวบางมุมหน้าเหมือนพ่อของเธอจริงๆ (ผู้กำกับฝีมือเยี่ยม รอน โฮเวิร์ด) อีก 2 รายนักแสดง ไท ซิมพ์คินส์ “เกรย์” และ นิค โรบินสัน “แซ็ช” ถ้าเดินตามรอย Jurassic Park สองคนนี้คงไม่กลับมาภาคต่อแน่นอน ที่น่าจะกลับที่สุดมาคงเป็น “ที-เร็กซ์” เพราะเป็นเครื่องหมายการค้าของภาพยนตร์


ตัวละครที่คิดว่าจะใส่รายละเอียดมากกว่านี้คือ “ฮอสกิ้นส์” ของ วินเซ็นต์ ดีโอโนฟริโอ อันนี้ผมคิดไปเองเพราะติดใจการแสดงของเขาในบท “วิลสัน ฟิสค์” จากทีวีซีรีส์ Daredevil มาก ส่วนบทที่คิดว่าเกินมาจริงๆสำหรับเรื่องนี้คือ พ่อและแม่ ของวัยรุ่นทั้งสองคน ถึงตัดออกไปก็ไม่ได้ทำให้หนังขาดความสมบูรณ์แต่อย่างใด บทที่น่าสงสารที่สุดคือนักแสดง ไบรอัน ที (เคยมีผลงานอย่าง The Wolverine และจะเป็น “ชเร็ดเดอร์” คนใหม่ใน TMNT2) รับบท “ผบ.ฮามาดะ” ออกมานิดเดียวก็ไปซะแล้ว  สำหรับผู้กำกับ โคลิน ได้ออกมาปฏิเสธการกำกับภาคต่อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว