วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

Pride & Prejudice & Zombies - เลดี้ + ซอมบี้



Entertain Review – Pride & Prejudice & Zombies “เลดี้ + ซอมบี้” ------- ข้อความบางส่วนจะเป็นการเปิดเผยเนื้อหาภาพยนตร์ ใครไม่อยากรู้เรื่องก่อนข้ามได้เลยครับ

ไม่ได้ดู Abraham Lincoln: Vampire Hunter จากงานเขียนของ เซ็ธ เกรแฮม-สมิธ เพราะคำวิจารณ์ว่าไม่สนุก แต่ยอมรับว่าสนใจใน Pride & Prejudice & Zombies ของเขาเพราะชอบงานของ เจน ออสเตน อย่าง Sense & Sensibility และอิทธิพลจาก Clueless ที่แปลงมาจาก Emma รวมถึง Bridget Jones’ Diary

บวกกับภาคผนวกที่ เกรแฮม หยิบเอามารวมคือ ซอมบี้ ที่ได้รู้จักมาจาก จอร์จ เอ.โรเมโร่ ดูครั้งแรกคือ Dawn of the Dead (1978) และดูในโรงภาพยนตร์คือ Night of the Living Dead (1990) แถมยุคนี้ยังมี The Walking Dead สุดฮิตอีกต่างหาก

จากตัวอย่างทำให้คิดว่าคงเลือดสาดพร้อมงานแอ็คชั่น โดยเริ่มต้นเรื่องได้อย่างเข้มข้น เมื่อ “มิสเตอร์ดารซีย์” (แซม ไรลีย์) ออกตรวจซอมบี้ที่อาจแฝงตัวในบ้านและจัดการอย่างไม่ลังเล พร้อมกับการเล่าเรื่องผ่านไตเติ้ลภาพยนตร์ที่แบ่งเมืองเป็นชั้นนอกและชั้นใน ทำให้คิดถึง Attack on Titans จากนั้นเข้าสู่ครอบครัว “เบ็นเน็ทท์” ว่าด้วยสาวงามที่ต้องออกเรือนในวาระอันควร แต่ทุกคนล้วนแต่ฝึกศิลปะการป้องกันตัวมาจากประเทศจีน เพื่อการปกป้องและปราบเหล่าซอมบี้ที่เพิ่มขึ้นในทุกขณะ

เสียดายที่ไม่ได้ดู Pride & Prejudice (2005) ฉบับที่ คีร่า ไนท์ลีย์ แสดง แต่ยังดีที่ได้ดู Becoming Jane ของ แอนน์ แฮธาเวย์ แสดงคู่กับ เจมส์ แม็คอะวอย หากเทียบความหยิ่งทะนงและความอคติ “อลิซาเบ็ธ เบ็นเน็ทท์” (ลิลลี่ เจมส์) เหมือนกับ “เจน ออสเตน” ใน Becoming Jane แต่กับ “ดาร์ซีย์” เวอร์ชั่น PPZ ทำให้รู้สึกนึกถึงใบหน้าของ โคลิน เฟิร์ธ ใน Bridget Jones’ Diary อารมณ์เรื่องระหว่าง “สมอง-เหตุผล” กับ “หัวใจ-ความรู้สึก” มันทำให้เกิดสภาวะมึนงงเอาได้ง่ายๆ

คู่พระนางรองคือ “มิสเตอร์บิงลีย์” (ดั๊กลาส บู๊ธ) และ “เจน เบ็นเน็ทท์” (เบลล่า ฮีทโค๊ท) ตอกย้ำให้นึกถึงตัวละคร “เอ็ดเวิร์ด เฟอร์ราร์ส” และ “เอเลนอร์ แดชวู้ด” ใน Sense & Sensibility จากไม่เข้าใจกันและปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด

สิ่งที่แปลกใหม่คือ ซอมบี้ ที่ยังสามารถควบคุมตนเองได้และเรียกว่า “ซอมบี้ชั้นสูง” (Aristrocrat Zombies) สามารถสื่อสารกับคนทั่วไปและควบคุมตนเองไม่ให้ฆ่าคนอย่าง “มิสเตอร์วิคแฮม” (แจ็ค ฮุสตั้น) นอกจากนี้ฉากแอ็คชั่นในการต่อสู้แบบประชิดตัวทำออกมาได้ดีสำหรับนางเอก “อลิซาเบ็ธ” ส่วนรายอื่นไม่ได้ทันมองเพราะติดใจเธอตั้งแต่ Cinderella เรื่องนี้ เบลล่า ก็น่ารักเช่นเดียวกัน

ปัญหาของภาพยนตร์หลักคือไม่แสดงเนื้อเรื่องหลักชัดเจนว่าจะเป็นโรแมนติค, ตลก, แอ็คชั่น หรือ สยองขวัญ ให้ชัดเจนไปในทางเดียว ทำให้รู้สึกว่าอารมณ์ถูกโยนไปมาจับทางไม่ค่อยจะถูก แต่ต้องบอกว่าดูได้สนุกและเพลินพอประมาณ เรียกเสียงหัวเราะได้ด้วย (ถ้าคาดหวังว่าภาพยนตร์จะเป็นแบบโปสเตอร์และตัวอย่างแล้วเข้ามาชม อาจมีอารมณ์เสียหลังดูจบก็เป็นได้)

หลบกระแสภาพยนตร์ช่วงเทศกาลออสการ์ แล้วมาชม “เลดี้ + ซอมบี้” ความยาวประมาณ 1 ชั่วโมง 48 นาที จริงๆแล้วน่าจะน่าเบื่อนะครับสำหรับโทนหนังที่สลับไปมาแต่พอดีว่าชอบแบบโรแมนติค และงานฆ่าซอมบี้เป็นทุนเดิมเลยแอบชอบนิดๆอยู่ คงต้องไปหา Pride & Prejudice ดูสักรอบเพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดครับ...

ขอขอบคุณ WALKER Ent. update อีกครั้งครับ


#PPZMovie #EntertainView