วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Kingsman: The Secret Service สายลับเกรียนโคตร


Kingsman: The Secret Service ภาพยนตร์สายลับแบบเกรียนๆ (ยุคนี้ต้องใช้คำนี้ใช่ไหม?) แต่ไม่แปลกใจเพราะเป็นผลงานของผู้กำกับ แมทธิว วอห์น จาก Kick-Ass “เกรียนโคตร” ทั้งสองภาค ที่ยกเอาซูเปอร์ฮีโร่มารวมกับชีวิตจริง “โคตรพิทักษ์บ่มพยัคฆ์” ก็เช่นเดียวกัน

พระเอกเราคือ “อิ๊กซี่” (ทารอน อีเกอร์ตั้น) ที่เคยมีพ่อเป็นผู้คัดเลือกสู่ “คิงส์แมน” โดยมี “กาลาฮัด” (โคลิน เฟิร์ธ) จะเป็นครูแนะแนว ขั้นตอนการคัดเลือกทำให้นึกถึง Men In Black ต้นฉบับที่ “เจ้าหน้าที่เค” พาคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยอย่าง “เจ” เข้ามารับการฝึก ตอนแรกคิดว่าจะชอบกับการต่อสู้ของ โคลิน เฟิร์ธ ไหม? เพราะติดภาพจากหนังรอมคอมทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น Bridget Jones’ Diary , Love Actually หรือ Mamma Mia! ด้วยการถ่ายทำแบบมุมมองแรก บวกกับ Kick-Ass สไตล์ทำให้ฉากการต่อสู้ตื่นตาและสะใจดีมากๆ โดยรวมแล้วยังชอบฉากการต่อสู้ในโบสถ์มากกว่าการต่อสู้ในรังผู้ร้ายท้ายเรื่องด้วยซ้ำ

เหมือนการเอาหนัง J.B. (เจมส์ บอนด์นะ ไม่ใช่ เจสัน บอร์น, แจ็ค บาวเออร์ หรือ จัสติน บี…) สำหรับฝ่ายพระเอกสู้กับผู้ร้ายที่มาจากพวกเด็กแนวหรือเจ้าพ่อที่ใส่ชุดเต็มไปด้วยสีสันต่างๆ นานๆทีจะเห็น “ผู้การฟิวรี่” แซมวล แอล.แจ็คสัน มาในบทร้ายและพูดมากๆ (เคยพูดมากมาแล้วใน Robocop) ครึ่งเรื่องแรกบทเดินได้ด้วยตัวละครของ เฟิร์ธ และ “อิ๊กซี่” เป็นคนเดินตาม พอหมดบทครูแนะแนว สายลับรุ่นเยาว์จึงได้ทำหน้าที่แทน พร้อมทั้งการช่วยเหลือจาก “เมอร์ลิน” เจ้าหน้าที่ภาคปฎิบัติจากคิงส์แมน (มาร์ค สตรอง เล่นบทเป็นคนดีแล้ว ดีใจจัง!)

อีกรายที่เด่นและไปได้ดีกว่าบทนางเอก คือนักแสดงโซเฟีย บูเทลล่า รับบท “กาเซลล์” (คงจะให้หมายถึงละมั่งที่มีกำลังขาอันแข็งแกร่งด้วย) สวย คม นึกถึง “ซีเนีย โอนาท็อปป์” วายร้ายหญิงบอนด์ที่แสดงโดย แฟมเก้ แจนเซ่น ได้เข้าเล่น Star Trek Beyond ไปแล้ว ขอให้ได้เป็นฝ่ายดีบ้างนะ อยากดูเธอแบบงามๆ ,  พระเอกนี่ไม่คุ้นเลย ทารอน อีเกอร์ตั้น ปรับเปลี่ยนจากชุดฮิพฮ็อพมาเป็นสูทก็พอได้ (แต่ เฟิร์ธ ดูดีกว่าเยอะ...สงสัยติดมโนมาจากรอมคอม) หน้าในบางขณะก็ยับๆยังไงก็ไม่รู้ แต่มาดเขากวนดีแท้ รอดูกันอีกทีในภาพยนตร์ดราม่าแก๊งสเตอร์ Legend ประกอบ ทอม ฮาร์ดี้ และจากนี้ก็ Eddie the Eagle ประกบ ฮิวจ์ แจ็คแมน


สุดท้ายจบที่บทสุดเปลืองตัวนักแสดง บท “อาร์เธอร์” ของ ไมเคิล เคน นึกว่าจะเป็นเสาหลักแต่ที่แท้เป็นเสาลอย ลูกเล่นไม่มี (ตามบทนะ) หนังต้องการเพียงเครดิตนักแสดงที่ดูน่าเชื่อถือและยำเกรงแค่นั้นเอง โดยรวมออกมาสนุกเพราะมีลูกเล่นอุปกรณ์ไฮเทค รวมถึงแผนการก่อการร้ายที่เสียดสีสังคมยุคไร้สาย  คิดว่าจะมีการพูดระลึกถึงคนที่ตายไปในการต่อสู้แต่อย่างที่หนังบอก....  “นี่ไม่ใช่หนังประเภทนั้น”...... แต่ก็อุตส่าห์จบแบบที่ เจมส์ บอนด์ “เพียร์ซ บรอสแนน” ทำในตอนท้ายของทุกภาค

ติดตามข่าวสารและข้อมูลภาพยนตร์ได้ที่เฟซบุ๊ค EntertainView https://www.facebook.com/pages/Entertainview/172702066075577?ref=settings


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น