วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Mission: Impossible - Rogue Nation

Mission: Impossible – Rogue Nation
ปฏิบัติการครั้งที่ 5 ของ “อีธาน ฮันท์” ว่าด้วยการพิสูจน์การมีตัวตนขององค์กร “ซินดิเคท”

โครงเรื่องคล้าย Ghost Protocol เริ่มจากปฎิบัติการช่วงต้นเรื่องแสดงให้เห็นถึงความเก่งกาจของพระเอก จากนั้นเข้าสู่แกนหลักที่ต้องเสียทีให้กับวายร้ายและต้องหลักเพื่อแก้เกมส์กลับคืนสู่ฉากที่ช่างสรรหามาให้ชมสมกับ “ปฏิบัติการที่เป็นไปไม่ได้” ช่างสรรหาวิธีทรมาน ทอม ครูซ วัย 53 ปีได้ดีเหลือเกิน สุดท้ายคือการสรุปปิดท้ายด้วยการแก้เกมส์ที่ทุกคนคาดไม่ถึง แต่ที่รู้แน่คือพระเอกต้องชนะอย่างแน่นอน
ยังคงเป็นหัวหอกหลักเช่นเดิมพร้อมนั่งแท่นโปรดิวเซอร์ ทอม ครูซ กลับมาพร้อมเสน่ห์ของ “ฮันท์” โชว์ร่างกายฟิตๆ (ภาคที่แล้วก็โชว์) พร้อมกับทีม IMF อย่าง “เบนจี้ ดันน์” ตัวละครพูดมากพอๆกับความสามารถทางเทคโนโลยี นึกไปถึงบท “สก็อตตี้” ใน Star Trek ได้เลย มีความเด่นมากไม่แพ้พระเอก ดูแล้วเด่นกว่าบท “ลูเธอร์ สติคเคลล์” ของ วิง เรมส์ เสียอีก และ เจเรมี่ เรนเนอร์ “วิลเลี่ยม แบรนด์ท” บทที่มาแบบนิ่งแต่แอบมีมุกฮาๆเป็นระยะแต่พร้อมที่จะดราม่าได้ทันที เสียดายที่ภาคนี้แอ็คชั่นน้อยไปหน่อย แต่มีความสำคัญสำหรับเชื่อมต่อกับ “อลัน ฮันลีย์” ของ อเล็ค บอลด์วิน หัวหน้าหน่วยซีไอเอ

เปลี่ยนทุกภาคสำหรับนางเอก รีเบ็คก้า เฟอร์กูสัน รับบท “อิลซ่า ฟอสท์” ตัวละครที่มีฝืมือระดับพระกาฬมาพร้อมกับความเท่ห์ (ทั้งท่าโพสต์ยิง, ขับมอเตอร์ไซต์และท่าไม้ตายกระโดดขึ้นคอสังหาร) แถมด้วยการมีความลับหลายชั้นซ้อนอยู่ด้วยกัน กว่าจะดูออกว่าเธอฝ่ายไหนก็ครึ่งเรื่องไปแล้ว ส่วนวายร้ายในภาคนี้มาแบบมาตรฐานคือ น้ำเสียง, สายตาและท่าทาง...นิ่ง ใส่เสื้อคอกลมหรือชุดสูท “เลน” แสดงโดย ฌอน แฮร์ริส ที่ประหลาดใจคือไม่คิดว่าจะให้เห็นหน้ากันชัดๆตั้งแต่ตอนแรก

ฉากแอ็คชั่นไม่ต้องพูดถึงเลยว่า “สุดจะคิดออกมาได้ในแต่ละภาค” ภาคนี้ก็ทั้งเกาะอยู่นอกเครื่องบิน และมุดลงน้ำแบบไม่มีถังออกซิเจน เป็น 2 ฉากหลักที่ทำให้คิดถึงภาคแรก Mission: Impossible ปี 1996 ของผู้กำกับ ไบรอัน เดอ พัลม่า คือ โหนตัวลงมาจากเพดาน และ ฉากต่อสู้บนหลังคารถไฟความเร็วสูง ที่เป็น 2 ฉากการเปิดตัวแฟรนไชส์จนถึงทุกวันนี้ และฉากไลล่าด้วยมอเตอร์ไซต์ทำให้นึกถึงภาค 2 ของ จอห์น วู

แต่มี 2 ฉากที่ไม่ใช่แอ็คชั่น เป็นการสนทนาธรรมดาแต่มันสะกิดใจ ฉากแรกคือ “อิลซ่า” กับ หัวหน้าหน่วย MI6 เกี่ยวกับชีวิตของสายลับ ที่ทำให้คิดไปถึงตัวละครอย่าง “เด็คคาร์ด ชอว์” ใน Furious 7 ถ้าหน่วยงานมันเฮียได้ขนาดนี้ก็ “ชีวิตจะหาหนทางของมันเอง” ครับ กับอีกฉากที่ทำให้อังกฤษเหมือนเป็นตัวตลกไปเลย เหมือนกัดๆจิกๆยังไง? อยากให้ 007 โผล่ออกมามากเลย

ได้ประสบการณ์ระบบเสียงแน่นๆหนักๆที่มาตามเสียงเครื่องบินลำเลียง, เสียงน้ำและเครื่องยนต์ในห้องเก็บข้อมูล รวมถึงเสียงบิดมอเตอร์ไซต์ไล่ล่ากันบนท้องถนน คงต้องยกให้โรงภาพยนตร์ IMAX เพียงระบบเดียวเท่านั้นครับ
ขอบคุณเพจ Sense on Films , Celebrity Style by toujours ensembleและ IMAX & 4DX Fanclub ครับ
*คิดว่าไม่ได้สปอยล์หนังนะ หากอ่านแล้วคิดว่าเป็นสปอยล์ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น